ค้นหา

ข่าวทันหุ้นวันนี้

26 กันยายน 2557

เราจะทำเงินได้จากฟอร์เร็กซ์ได้อย่างไร

ในตลาดคุณจะซื้อหรือขายค่าเงิน การทำการเทรดในตลาดค่าเงินนั้นง่ายมาก ซึ่งวิธีการเทรดก็เหมือนกับตลาดอื่น ๆ (เช่น ตลาดหุ้น) ดังนั้นถ้าคุณมีประสบการในการเทรดตลาดอื่นมาก่อน คุณก็คงเข้าใจได้ง่ายขึ้นวัตถุประสงค์ของการเทรดฟอร์เร็กซ์เพื่อที่จะทำการแลกเปลี่ยนค่าเงินเพราะคาดหวังว่าราคาจะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่คาดหวัง ดังนั้น ค่าเงินที่คุณซื้อจะมีการเปลี่ยนแปลงมูลค่าเมื่อคุณขาย

ตัวอย่างของการทำกำไรจากค่าเงิน.
สิ่งที่เทรดเดอร์ทำ                                                                                 EUR              USD

คุณ Buy EUR/USD ที่ราคา 1.18 มูลค่า 10,000 ยูโร                         +10,000            -11,800*


สองสัปดาห์ต่อมา คุณแลกเงินยูโรกลับมาเป็นเงินดอลล่าร์
ที่ราคา 1.2500 .                                                                                 -10,000             +12,500**

คุณได้กำไร                                                                                              0                  $700.

*EUR 10,000 x 1.18 = US $11,800

** EUR 10,000 x 1.25 = US $12,500


อัตราแลกเปลี่ยนเป็นค่าอัตราส่วนของค่าเงินหนึ่งต่อค่าเงินหนึ่ง ตัวอย่างเช่น USD/CHF อัตราส่วนจะบอกได้ว่า จำนวนเงินดอลล่าร์กี่เหรียญ ถึงจะสามารถซื้อได้ 1 สวิสฟรังค์ หรือ สวิสฟรังค์จำนวนเท่าไหร่ที่คุณจะต้องใช้ในการซื้อเงิน 1 ดอลล่าร์

24 กันยายน 2557

จะต้องใช้เงินเท่าไหร่ในการเทรดฟอร์เร็กซ์

การเทรดฟอร์เร็กซ์ (บัญชีไมโคร) เราอาจจะเปิดบัญชีด้วยเงินซักไม่กี่ร้อยเหรียญ แต่อย่าพึ่งหัวเราะ – บัญชีไมโครและ บัญชี มินิ ก็ดีสำหรับคุณแล้วในการเริ่มต้นที่จะลองเอาขาจุ่มลงในน้ำ โดยคุณจะไม่จมน้ำ สำหรับบัญชีไมโคร เราแนะนำว่าให้เปิดอย่างน้อย ที่ 1,000 เหรียญ และ บัญชี มินิ เราแนะนำให้เปิด 10,000 เหรียญ แต่เราจะฝากเงินเท่าไหร่ก็ได้นะครับ เล่นได้หมดครับ ศึกษาดี ๆ ก่อนนะครับ

เราต้องมีเครื่องมืออะไรบ้างในการเริ่มเทรดฟอร์เร็กซ์

คอมพิวเตอร์ซักเครื่องพร้อมกับอินเตอร์เนทความเร็วสูงและข้อมูลทั้งหมดในเว็บของเรา แค่นี้ก็เพียงพอสำหรับการเริ่มต้นเทรดฟอร์เร็กซ์

ทำไมพวกเขาถึงเทรดค่าเงิน?

การเทรดฟอร์เร็กมีข้อดีหลายอย่าง ข้างล่างนี้เป็นเหตุผลเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ตอบคำถามว่าทำไมคนส่วนใหญ่ถึงเลือกเทรดฟอร์เร็กซ์กัน

• ไม่มี commission (ค่านายหน้า) ไม่มีค่าธรรมเนียมในการส่งคำสั่งซื้อขาย ไม่มีค่าธรรมเนียมในการแลกเปลี่ยนค่าเงิน ไม่มีค่าธรรมเนียมที่เก็บจากภาครัฐ ไม่มีค่าธรรมเนียมที่คิดโดยโบรกเกอร์ ซึ่งโบรกเกอร์เหล่านั้นจะได้ผลตอบแทนจากส่วนต่างของราคา ที่เรียกว่า Bid กับ Ask หรือเรียกอีกอย่างว่า Spread นั่นเอง
• ไม่มีคนกลาง การเทรด Spot ค่าเงินนั้นจะไม่มีการผ่านคนกลาง ซึ่งทำให้คุณสามารถเทรดโดยตรงกับตลาดตามราคาจริงของค่าเงินนั้น ๆ
• ไม่มีการกำหนด Lot หรือ Size ในตลาดฟิวเจอร์ lot หรือว่า Size ของสัญญาการซื้อขายขึ้นอยู่กับการแลกเปลี่ยนของตัวเครื่องมือนั้น ๆ เช่น size มาตรฐานของสัญญาฟิวเจอร์เงิน คือ 5000 ออนซ์ ใน ในตลาดฟอร์เร็ก คุณสามารถส่งคำสั่งได้ตามใจคุณ ซึ่งเหตุผลนี้ทำให้เทรดเดอร์สามารถเข้าเทรดในตลาดได้ด้วยเงินเพียง 250 เหรียญ (แม้ว่าเราจะบอกว่าการเทรดด้วยเงิน 250 เหรียญ เลวร้ายยังไง)
• ต้นทุนการส่งคำสั่งต่ำ ต้นทุนในการส่งคำสั่ง( Bid/Ask หรือ Spread) ซึ่งน้อยกว่า 0.1 เปอร์เซ็นต์ตามเงื่อนไขของตลาด สำหรับโบรกเกอร์ใหญ่ๆ Spread อาจจะน้อยถึง .07 เปอร์เซ็นต์เลย ซึ่งทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับ Leverage ที่คุณใช้
• ตลาดที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง เราไม่ต้องรอให้มีคนมาสั่นกระดิ่งเปิดตลาด ตลาดเริ่มตั้งแต่วันอาทิตย์ตอนเย็น จนถึง วันศุกร์ตอนกลางวัน (เวลา สหรัฐฯ บ้านเราเริ่ม ตีห้าของวันจันทร์ – ตีสี่ของวันเสาร์) ตลาดฟอร์เร็กซ์นั้นไม่เคยหลับ ซึ่งเหมาะกับคนที่เทรดเป็นงานเสริม เพราะว่าคุณสามารถเลือกได้ว่าคุณอยากเทรดเมื่อไหร่ ไม่ว่าจะเป็นกลางวัน กลางคืน
• ไม่มีใครสามารถควบคุมการเคลื่อนไหวของตลาดได้ ตลาดเทรดค่าเงินเป็นตลาดที่ใหญ่มาก และมีนักเทรดมากมายหลายระดับอยู่ในตลาดซึ่ง ไม่มีใคร(แม้แต่ธนาคารกลาง) ที่จะสามารถควบคุมราคาให้เคลื่อนไหวไปตามความต้องการของเขาได้
• Leverage (คาน) ในการเทรดฟอร์เร็กซ์ แม้ว่าเราจะฝากเงินเข้าเพียงน้อยนิด แต่เราก็สามารถถือครองสัญญาที่มีขนาดใหญ่กว่าเงินในบัญชีของเราได้ Leverage ให้เทรดเดอร์สามารถทำกำไรได้ในขณะที่มีความเสี่ยงของเงินทุนต่ำ ตัวอย่าง โบรกเกอร์หนึ่ง อนุญาตให้เราใช้ leverage 1:200 นั่นหมายถึงว่า ถ้าเรามีเงินมาร์จิ้น 50 ดอลล่าร์ แต่ว่าทำให้เทรดเดอร์ ซื้อหรือขาย สัญญามูลค่า 10,000 เหรียญได้ เช่นเดียวกัน ถ้าเรามีมาร์จิ้นอยู่ 500 เหรียญ เราก็สามารถเทรดสัญญามูลค่า 100,000 เหรียญ ได้เช่นกัน แต่ว่า Leverage ก็เหมือนดาบสองคม ถ้าเราไม่มีการจัดการความเสี่ยงที่ดี การใช้ Leverage สูง จะทำให้เราขาดทุนหรือกำไรมหาศาลได้เหมือนกัน
• มีสภาพคล่องสูง. เพราะว่าตลาดฟอร์เร็กซ์เป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่มาก ซึ่งทำให้มีสภาพคล่องสูงเช่นกัน นั่นหมายถึงว่า ภายใต้สภาวะตลาดปกติเมื่อคุณคลิกเม้าส์ ส่งออร์เดอร์ คุณจะสามารถส่งคำสั่งได้ทันที คุณจะไม่ติดขัดในการเทรด ไม่ว่าคุณจะตั้งให้เปิดออร์เดอร์แบบอัติโนมัติเมื่อถึงราคาที่กำหนด(Limit order) หรือ ให้ปิดออร์เดอร์อัติโนมัติถ้าราคาไม่ได้เป็นไปอย่างที่คุณคิด(Stop loss order)
• มี บัญชีเทรด Demo, ข่าว , กราฟ และ บทวิเคราะห์บริการให้ โบรคเกอร์ออนไลน์ส่วนใหญ่ จะมีบัญชี demo ให้ใช้ในการฝึกเทรด พร้อมกับบริการข่าว และกราฟ รวมอยู่ในโปรแกรมเทรด โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ สิ่งเหล่านี้เป็นข้อมูลที่คุณค่าสำหรับนักเทรดที่ “น่าสงสาร” และ นักเทรดที่ชาญฉลาด ที่อยากจะฝึกปรือฝีมือตัวเองในการเทรดก่อนที่จะเปิดบัญชีเงินจริง และเสี่ยงในเงินจริง ๆ
• การเทรดบัญชี Mini และ บัญชี Micro คุณอาจจะคิดว่าการที่จะเป็นนักเทรดค่าเงินขึ้นมาได้นั้จะต้องใช้เงินมหาศาล แต่จริงๆ แล้ว ถ้าเรามาเทียบการเทรดค่าเงินกับตลาดหุ้น ออพชั่นหรือว่า ฟิวเจอร์ แต่ว่าไม่ใช่อย่างนั้น โบรกเกอร์ออนไลน์หลาย ๆ ที่ มีบริการบัญชี Mini กับ บัญชี Micro ซึ่งบางโบรคเกอร์อนุญาตให้คุณฝากเงินได้ต่ำสุดเพียง 300 เหรียญ หรือต่ำกว่านั้นก็มี แต่ว่าเราไม่ได้หมายถึงว่า คุณควรจะเปิดบัญชีกับพวกเขาโดยใช้เงินให้น้อยที่สุดนะ แต่เรากำลังหมายถึงว่า มันทำให้ฟอร์เร็กซ์เข้าถึงคนได้หลายกลุ่ม หลายสาขาอาชีพ ผู้ซึ่งไม่มีเงินมากในการเปิดบัญชีครั้งแรก

ตลาดฟอร์เร็ก(OTC)

ตลาดฟอร์เร็ก เป็นตลาดที่ใหญ่และได้รับความนิยมมากที่สุดในตลาดทุนทั้งหมดด้วยกันในโลกนี้ ซึ่งมีปริมาณการเทรดมากที่สุดไม่ว่าจะมาเหล่าบัญชีเทรดส่วนตัวหรือองค์กร ซึ่งตลาดนี้ใช้ระบบ OTC ซึ่งเทรดเดอร์แต่ละคนจะตัดสินใจในการเทรดว่าจะเทรดกับใครตามเงื่อนไขของ ความดึงดูดใจที่มีต่อราคา และ ความเป็นที่นิยมของค่าเงิน
ชาร์ทข้างล่างแสดงการเทรดถึงอัตราส่วนการเทรดของค่าเงินต่าง ๆ ซึ่งค่าเงิน Dollar เป็นค่าเงินที่มีการเทรดมากที่สุด ถึง 86 % ของตลาด รองลงคือ เงิน EURO 37% และอันดับสามได้แก่เงินเยน 16.5 %
ทำ

เมื่อไหร่ที่ค่าเงินจะถูกเทรด?

ตลาดฟอร์เร็กซ์ มีเอกลักษณ์ของตัวมันเอง เหมือนกับซูเปอร์มาเก็ต วอลมาร์ทในสหรัฐฯซึ่งเปิดตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนในโลกคุณก็สามารถเทรดได้ ทั้งธนาคารและสถาบันการเงินอื่นๆ ที่ยังคงเทรดค่าเงินอยู่ทั่วโลกทั้งวันทั้งคืนและหยุดเฉพาะวันหยุดสุดสัปดาห์
ตลาดค่าเงินหมุนตามดวงอาทิตย์รอบโลก ดังนั้นคุณสามารถเทรดได้แม้กระทั่งตอนกลางคืน(ถ้าคุณเป็นแดรคคูล่า) หรือว่าตอนเช้า (ถ้าคุณเป็นนกตื่นที่ตื่นเช้าหน่อย) แต่จำไว้ว่า นกที่ขยันตื่นเช้าไม่จำเป็นว่าจะมีหนอนกินในตลาดแห่งนี้ คุณอาจจะได้หนอนก็จริงอยู่ แต่ว่านกตัวใหญ่ที่ร้ายกาจกว่าคุณก็อาจจะจ้องเขมือบคุณอยู่เหมือนกัน

ตัวอย่าง เวลาของตลาดฟอร์เร็กซ์

Time Zone
New York
GMT
ตลาดโตเกียวเปิด
19:00
0:00
ตลาดโตเกียวปิด
4:00
9:00
ตลาดลอนดอนเปิด
3:00
8:00
ตลาดลอนดอนปิด
12:00
17:00
ตลาดนิวยอร์คเปิด
8:00
13:00
ตลาดนิวยอร์คปิด
17:00
22:00

แล้วค่าเงินไหนที่เทรดอยู่ในตลาดฟอร์เร็กซ์?

ค่าเงินที่เป็นที่นิยมมากที่สุดได้แสดงตามสัญลักษณ์ ตามตารางข้างล่างนี้

สัญลักษณ์
ประเทศ
ค่าเงิน
ชื่อเล่นของค่าเงิน
USD
สหรัฐฯ
ดอลล่าร์
Buck
EUR
สหภาพยุโรป
ยูโร
Fiber
JPY
ญี่ปุ่น
เยน
Yen
GBP
สหราชอาณาจักร
ปอนด์
Cable
CHF
สวิสเซอร์แลนด์
ฟรังค์
Swissy
CAD
แคนาดา
ดอลล่าร์
Loonie
AUD
ออสเตรเลีย
ดอลล่าร์
Aussie
NZD
นิวซีแลนด์
ดอลล่าร์
Kiwi

สัญลักษณ์ของค่าเงินในตลาดฟอร์เร็กซ์จะต้องเป็นสามตัวอักษรเสมอ ซึ่งพยัญชนะสองตัวแรกหมายถึงชื่อของประเทศ และตัวสุดท้ายนั้นบ่งบอกถึงชื่อของค่าเงินของประเทศนั้น ๆ

อะไรคือ ตลาด Spot ?

Spot คือตลาดใดก็ตามที่ทำการซื้อขายในราคานั้น ๆ ในปัจจุบัน ตามเครื่องมือทางการเงินแต่ละประเภท

พวกเค้าเทรดอะไรกันในตลาดฟอร์เร็กซ์

คำตอบง่าย ๆ ของคำถามนี้คือ เงิน การเทรดฟอร์เร็ก คือการซื้อขายค่าเงินโดยถ้าเรา ซื้อค่าเงินอีกค่าเงินหนึ่ง เราก็จะขายค่าเงินอีกค่าเงินหนึ่ง ซึ่งค่าเงินถูกเทรดผ่านโบรกเกอร์ หรือว่า ดีลเลอร์นั่นเอง แต่ละครั้งจะเทรดเป็นคู่ ตัวอย่างเช่น ค่าเงินยูโร และ ค่าเงินดอลล่าร์ (EUR/USD) หรือ ค่าเงินปอนด์ และ ค่าเงินเยน (GBP/JPY)
เพราะว่า คุณไม่ได้ซื้ออะไรที่เป็นรูปเป็นร่าง ๆ จริง ๆ การเทรดสิ่งเหล่านี้ จึงค่อนข้างทำให้สับสน คุณลองคิดถึงคุณกำลังซื้อหุ้น โดยที่บริษัทที่คุณซื้อหุ้นของเขานั่นก็คือ ประเทศที่คุณถือค่าเงินนั่นเอง สมมุติว่า คุณซื้อเงินเยน คุณก็กำลังลงทุนในเศรษฐกิจของประเทศญี่ปุ่นอยู่ ซึ่งราคาของค่าเงินนั้นก็สะท้อนภาวะของตลาดที่ผู้คนในตลาดคิดว่า เศรษฐกิจของญี่ปุ่นจะเป็นยังไง ในปัจจุบันและ อนาคต
โดยทั่วไป ค่าเงินค่าเงินหนึ่งต่ออีกค่าเงินหนึ่ง จะสะท้อนถึงเศรษฐกิจประเทศหนึ่ง ที่เปรียบเทียบกับอีกประเทศหนึ่งอยู่
ซึ่งจะแตกต่างกับตลาดทุนอื่นๆ เช่น ตลาดหุ้นนิวยอร์ค ตลาดฟอร์เร็กซ์ไม่มีที่ตั้ง หรือว่าไม่มีศูนย์กลางการแลกเปลี่ยน ตลาดฟอร์เร็กนั้นทำการซื้อขายผ่านระบบ OTC (Over the Counter) หรือว่า เรียกว่า Interbank market นั่นเอง เนื่องจากว่าตลาดทั้งหมดนั้น ทำการซื้อขายในระบบ electronic ด้วยระบบเครือข่ายของธนาคาร ซึ่งสามารถทำการซื้อขายได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ในช่วงปลายปี 1990 มีแต่รายใหญ่ ๆ เท่านั้นที่เทรดในตลาดนี้ ซึ่งเงินที่คุณต้องมีในการเทรดตลาดนี้ในตอนนั้นคือ 10 ถึง 50 ล้านดอลล่าร์ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเป็นธนาคารหรือว่า สถาบันการเงินขนาดใหญ่ ไม่ใช่รายย่อย ๆ อย่างปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม เพราะว่า พัฒนาการที่รวดเร็วของอินเตอร์เนท บริษัทที่เทรดฟอร์เร็กซ์สามารถที่จะให้เราเปิดบัญชีที่ใช้ในการเทรดให้กับรายย่อยอย่างเรา ๆ ในตอนนี้
สิ่งที่คุณควรจะมีในการเทรด คือ คอมพิวเตอร์ซักเครื่อง แล้วก็อินเตอร์เนทความเร็วสูง และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ ข้อมูลซึ่งมีอยู่ในเว็บไซต์นี้แล้ว
BabyPips.com ถูกตั้งขึ้นมาเพื่อให้คำแนะนำสำหรับนักเทรดที่ยังไม่รู้จักตลาดฟอร์เร็กเลยหรือนักเทรดมือใหม่ ให้เข้าใจเกี่ยวกับความรู้พื้นฐานในตลาด forex นี้ ในแบบที่สนุกและง่ายต่อการทำความเข้าใจ

ฟอร์เร็กซ์(Forex)คืออะไร

Foreign Exchange Market หรือที่รู้จักกันดีในชื่อของ FOREX, Forex, Retail Forex, FX, Spot FX หรือ Spot เฉย ๆ เป็นตลาดการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยปริมาณการซื้อขายต่อวันที่มากกว่า 4 ล้าน ๆ หรียญ ต่อวัน ถ้าคุณเปรียบเทียบตลาดหุ้น นิวยอร์คที่มีปริมาณการเทรดต่อวัน ที่มากมายถึง 25 พันล้านเหรียญต่อวัน คุณจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าตลาดฟอร์เร็กซ์ นั้นใหญ่ขนาดไหน ซึ่งตลาดมีขนาดใหญ่กว่า ตลาดฟิวเจอร์ และตลาดหุ้น สหรัฐฯ รวมกันถึง สามเท่า ฟอร์เร็กซ์สุดยอด!!

23 กันยายน 2557

รายชื่อโบรกเกอร์

วันนี้ลองเอาตัวอย่างรายชื่อโบรกเกอร์มาให้ท่าน ๆ ลองดู ส่วนรายละเอียดการเปิดบัญชีของแต่ละโบรกเกอร์อาจมีการเปลี่ยนแปลง กรุณาติดต่อสอบถามข้อมูล ก่อนเปิดบัญชี ผมจะไม่เอารายละเอียดของแต่ละโบรกมาเขียนเพราะเวลามีการเปลี่ยนแปลงท่านจะงง  ให้ท่าน ๆ เข้าไปในเว็บของแต่ละโบรกได้เลยครับ Copy ชื่อโบรกเกอร์ไป search หาใน Google ได้เลย

AECSบริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน)
AFCบริษัท ออสสิริส ฟิวเจอร์ส จำกัด
AIRAบริษัทหลักทรัพย์ ไอร่า จำกัด (มหาชน)
APPLEบริษัทหลักทรัพย์ แอพเพิล เวลธ์ จำกัด (มหาชน)
ASPบริษัทหลักทรัพย์เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน)
AWSบริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ จำกัด
BLSบริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน)
CIMBSบริษัทหลักทรัพย์ ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด
CGSบริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
Classic Goldบริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด
CNSบริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน)
DBS VICKERSบริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด
FNSYRUSบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน)
GLOBLEXบริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด
GTWMบริษัท จีที เวลธ์ แมเนจเมนท์ จำกัด
Hua Seng Hengบริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด
IVGบริษัทหลักทรัพย์ ไอ วี โกลบอล จำกัด (มหาชน)
KGIบริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
KKTRADEบริษัทหลักทรัพย์ เคเคเทรด จำกัด
KSบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
KSSบริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน)
KTBSTบริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด
KT ZMICOบริษัทหลักทรัพย์ เคที ซีมิโก้ จำกัด
MBKETบริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
MTSบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์ จำกัด
RHBOSKบริษัทหลักทรัพย์ อาร์เอชบี โอเอสเค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
PHATRAบริษัทหลักทรัพย์ ภัทร จำกัด (มหาชน)
PHILLIPบริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
SCBSบริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด
THANACHARTบริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน)
TISCOบริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด
TRINITYบริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด
UOBFTบริษัท ยูโอบี บุลเลียน แอนด์ ฟิวเชอร์ (ไทย) จำกัด
UOBKHSTบมจ.หลักทรัพย์ ยูโอบีเคย์เฮียน
YLGบริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด

โบรกเกอร์ไหนดี? มีโบรกเกอร์อะไรบ้าง?

เลือกโบรกเกอร์อย่างไรดี มาอธิบายเป็นข้อ ๆ ละกันนะครับ

1. ความปลอดภัย
โบรกเกอร์หรือบริษัทหลักทรัพย์ต้องมีใบอนุญาตสำหรับการประกอบกิจการและเป็นสมาชิกของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย คุณสามารถดูรายชื่อโบรกเกอร์ได้ที่เว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

2. ค่าคอมมิสชั่น
เมื่อคุณซื้อขายหุ้น คุณถูกเรียกเก็บเงินค่าคอมมิสชั่นทุกครั้งที่ได้ทำการซื้อขาย ดังนั้นคุณควรจะหาข้อมูลและเปรียบเทียบตัวเลือกต่าง ๆ ของแต่ละโบรกเกอร์ แต่ละประเภทของบัญชี บางโบรกเกอร์ไม่คิดค่าคอมมิสชั่นขั้นต่ำต่อวัน

3. การฝากและถอนเงิน
โบรกเกอร์ที่ดีต้องสามารถฝากเงินเข้าไปและถอนเงินออกมาได้ง่าย

4. Customer Service
 คุณจะต้องเลือกโบรกเกอร์ที่สามารถติดต่อได้รวดเร็ว จัดการคำสั่งซื้อขายของลูกค้าด้วยบริการที่ดีและรวดเร็ว รวมไปถึงการให้คำแนะนำและตอบคำถามของนักลงทุนมือใหม่อย่างเต็มใจด้วย

5. บริการอื่น ๆ
บริการอื่น ๆ เช่นบทวิเคราะห์ และ รายงานวิจัยต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นประจำวัน สัปดาห์ หรือ เดือน โบรกเกอร์ที่ดีต้องมีการอัพเดทข้อมูลข่าวสารที่รวดเร็วและครบถ้วน มีโปรแกรมดูหุ้น หรือ แอพพลิเคชั่นมือถือสำหรับอำนวยความสะดวกมั้ย?

รายชื่อโบรกเกอร์

18 กันยายน 2557

ค่าเงินลดลงเพราะฤทธิ์เงินเฟ้อ

สวัสดีครับ วันนี้มาให้แนวคิดเล็ก ๆ น้อย ว่าทำไมเรา ออมเงิน หรือ เอาเงินออมมาลงทุนเพื่อให้ได้ผลตอบแทนมากว่าเงินเฟ้อครับ เพราะค่าเงินลดลงเพราะฤทธิ์เงินเฟ้อ ทำให้เราต้องใช้เงินมากขึ้น เพื่อซื้อสินค่าเท่าเดิม หรือที่เรารู้สึกว่าราคาสินค้าแพงขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อการดำรงชีพและการกินดีอยู่ดีของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนที่มีรายได้น้อย หรือรายได้โตไม่ทันเงินเฟ้ออออออ มา มะ มาดูตัวอย่างกัน

16 กันยายน 2557

ขั้นตอนการเปิดบัญชีซื้อขายหุ้น

หลาย ๆ คนยัง งง ๆ และสงสัย เหมือนผมตอนศึกษาใหม่ ๆ ว่า ที่เราศึกษาเรื่องหุ้นที่พรรณา มาทั้งหมดเนี่ย แล้วมันเปิดยังไงวะ
วันนี้ผมจะมาบอกขั้นตอนให้ท่าน ทั้งหลาย ได้ฟังกัน มะ มาใกล้ ๆ หน้าจอกัน
ขั้นตอนที่ 1
ติดต่อกับโบรกเกอร์ เพื่อขอเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นผ่านอินเทอร์เน็ต
แล้วโบรกเกอร์คือไรวะ เอาง่าย ๆ คือ อยู่ ๆ เราจะเดิน ดุ่ม ๆ ไปขอซื้อหุ้น เหมือนขอซื้อน้ำอัดลมไม่ได้ เราต้องมีตัวกลาง มองเป็นคนรับใช้เราละกันนะ อิอิ
เราอยากได้หุ้นตัวไหนก็ใช้มันไปซื้อเราจ่ายเงินเดี๋ยวมันก็เอาหุ้นมาให้เรา ok เข้าใจตรงกันนะ
ขั้นตอนที่ 2
กรอกใบคำร้องขอเปิดบัญชี พร้อมเตรียมหลักฐานที่ใช้การเปิดบัญชีบุคคลธรรมดา กรอกแบบฟอร์มเพิ่มเติมอื่น ๆ
เช่น วิธีการชำระเงินหลักทรัพย์ที่ซื้อขายผ่าน Internet
ขั้นตอนที่ 3
รอผลการพิจารณาจากโบรกเกอร์ ใช้เวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์
ขั้นตอนที่ 4
เข้าสู่การซื้อขายออนไลน์ ถ้าเราผ่านแล้วเราจะได้ user และ password
เพื่อ login เข้าเว็บของโบรกเกอร์  และเรียกใช้โปรแกรมที่ ซื้อขายเขาเรียกว่า streaming

เอาเป็นว่าหลัก ๆ เราเข้าใจตรงกันแค่นี้ก่อนนะครับ กลับไปนอนหลับฝันดีนะครับ อย่าไปคิดมาก  ว่าเราต้องเข้าใจทุกอย่างวันนี้  ผมก็ยังไม่เข้าใจอีกเยอะ
ต้องศึกษาอีกแยะ  สิ่งที่ผมเขียนมาเป็นบทความตอนนี้ก็แค่ สิ่งที่ผมเคยศึกษาและผ่านมาเท่านั้นไม่ได้การันตีว่าผมเป็นเซียนหุ้นนะ 555 บอกไว้ก่อนเด้อพี่เด้อ
ผมพยายามอธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ  เพราะผมเคยเบื่อไอ้พวกที่เรียกตัวเองว่า นักเล่นหุ้น เวลาถามอะไรชอบ คุยภาษาที่เราเข้าใจยาก หรือเราโง่วะ อิอิ เหมือนโชว์พาว
ให้เราดูโง่ 5555 ก็กูไม่รู้นิ
       ส่วนคำถามที่มีในหัวของคุณตอนนี้คือ
แล้ว มันมีกี่โบรกเกอร์ ?
แล้ว มีค่าธรรมเนียมซื้อ ขาย เท่าไหร่ ?
แล้ว ไอ้เจ้า streaming ใช้ยังไง ใช้ยากไหม ?
แล้ว @#$$%%%%
แล้ว  *(&&&&^&***
แล้ว (*&&&*&%%%$$
  หยุดก่อนใจเย็น ๆ ครับ ผมจะค่อย ๆ เรียบเรียงเป็นบทความมาให้ทุก ๆ คนอ่านต่อไปนะครับ  คลิกติดตามได้ที่ Facebook นะครับ

15 กันยายน 2557

ใครเป็นใครในตลาดหุ้น

ตลาดหุ้น คือ แหล่งที่ผู้ลงทุนใช้เป็นศูนย์กลางในการซื้อขายหุ้น แต่กระบวนการซื้อขายจะสมบูรณ์ได้นั้น ยังมีผู้เกี่ยวข้อง
อีกหลายกลุ่ม มาดูกันว่ามีใครบ้าง และแต่ละกลุ่มมีหน้าที่อะไร ทั้งในการซื้อขายหุ้นครั้งแรกจากบริษัทที่ออกหุ้นเพื่อต้องการระดมทุน
โดยตรง หรือการซื้อขายใน ตลาดแรก และการซื้อขายหุ้นภายหลังจากเสนอขายครั้งแรกแล้วในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
(SET) หรือตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (MAI) หรือที่เรียกว่า การซื้อขายหุ้นใน ตลาดรอง ลองมาทำความรู้จักกับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด
ในตลาดหุ้น

ภาษีที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนในหุ้น


ผลตอบแทนจากการขายหุ้นในรูปแบบกำไรส่วนต่างของราคา (capital gain) ไม่ต้องเสียภาษี
ส่วนผลตอบแทนในรูปเงินปันผลจากหุ้นของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะต้องถูก
หักภาษี ณ ที่จ่าย 10% ทั้งนี้ผู้ลงทุนสามารถขอเครดิตภาษีคืนได้ตามเกณฑ์ของสรรพากร

หุ้นมีความเสี่ยงอะไรบ้าง?

 ความเสี่ยงจากภาวะตลาด (market risk) ซึ่งมักขึ้นอยู่กับสถานการณ์ต่าง ๆ เช่น
ภาวะการเมือง สังคมภายในประเทศ ภาวะเศรษฐกิจทั้งภายในและภายนอกประเทศ
ที่จะกระทบต่อภาคธุรกิจจนทำให้ภาวะตลาดเปลี่ยนแปลงไปจนมีผลกระทบต่อราคาหุ้น
ความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง (liquidity risk) ที่หุ้นบางบริษัทอาจไม่ได้ซื้อง่ายขายคล่อง
มีจำนวนหุ้นที่ซื้อขายอยู่ในตลาดไม่มาก ทำให้ไม่สามารถซื้อขายได้ในเวลาหรือราคาที่ต้องการ
หากต้องรีบขายเพราะมีความจำเป็นต้องใช้เงิน

ความเสี่ยงจากการดำเนินงานของบริษัทผู้ออกหุ้น (company risk)
 เช่น การบริหารกิจการผิดพลาดไม่เป็นไปตามเป้าหมาย
การเปลี่ยนแปลงผู้บริหารหรือนโยบายบริษัท การถูกฟ้องร้องดำเนินคดี หรือการถูกฟ้องล้มละลาย เป็นต้น
หรือหากบริษัทต้องพึ่งพิง ผู้จัดจำหน่ายหรือลูกค้ารายใหญ่บางรายมากจนเกินไป หากเกิดปัญหากับบริษัทเหล่านี้
ก็จะมีความเสี่ยงที่บริษัทอาจไม่สามารถค้าขายต่อไปได้ หรือถ้ากิจการต้องพึ่งพาช่างฝีมือหรือช่างที่มีทักษะเฉพาะตัวมากเกินไป
การขาดแคลนแรงงานหรือการประท้วงหยุดงาน ก็อาจกระทบต่อผลการดำเนินงานบริษัทในช่วงนั้น ๆ
 ได้ยิ่งถ้าบริษัททำธุรกิจหลากหลาย ความเสี่ยงจากการดำเนินงานอาจยิ่งเพิ่มมากได้
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

หุ้นน่าลงทุนอย่างไร?

หุ้นเป็นเครื่องมือลงทุนที่ให้ผลตอบแทนโดยเฉลี่ยที่ค่อนข้างสูง จากข้อมูลของ
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและธนาคารแห่งประเทศไทย แสดงให้เห็นว่าในช่วง
ระยะเวลาเฉลี่ย 10 ปี (2542 – 2552) หุ้นให้ผลตอบแทนเฉลี่ยสูงถึง 11.04% ในขณะที่
การลงทุนอื่น ๆ จะให้ผลตอบแทนที่ต่ำกว่า เช่น เงินฝาก 3.02% พันธบัตร 5.65% เป็นต้น*

* ข้อมูลเหล่านี้หากจะนำไปอ้างอิงต่อ ควรศึกษาเงื่อนไข หรือสมมุติฐานของการคำนวณหรือการวิเคราะห์ด้วย

     ผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นนั้น มีทั้งในรูปแบบ “เงินปันผล (Dividend)” ซึ่งผู้ลงทุนมีโอกาสได้รับเมื่อบริษัทที่ไปลงทุน
มีกำไรจากผลประกอบการและมีการจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นตามสัดส่วนหุ้นที่ถืออยู่ นอกจากนี้ยังมีผลตอบแทนในรูปแบบ
“กำไรส่วนเกินทุน (capital gain)” ซึ่งเป็นกำไรจากการซื้อขายหุ้น (ซื้อถูกขายแพง) ในตลาดหลักทรัพย์ โดยผลตอบแทนในส่วน
ของ capital gain นี้ จะได้รับยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีอีกด้วย

     ในตลาดหุ้นมีหุ้นที่หมุนเวียนเปลี่ยนมือซื้อขายกันอยู่หลายประเภท เช่น
หุ้น blue chips ซึ่งเป็นหุ้นพื้นฐานดีและมักเป็นหุ้นที่มีมูลค่าตลาดสูง (ราคาและปริมาณ
การซื้อขายสูง) เพราะเป็นหุ้นชั้นดีที่ผู้ลงทุนหลายรายสนใจลงทุนกันมาก จึงมีชื่อเรียกเช่นเดียว
กับชิพสีฟ้าที่มีมูลค่าสูงในคาสิโน หุ้นปันผล คือ หุ้นที่มีนโยบายการปันผลอย่างสม่ำเสมอ
นอกจากนี้ยังมีหุ้นเก็งกำไรหรือหุ้น hot ที่ร้อนสมชื่อเพราะราคามักขึ้นลงผันผวนมากในหนึ่งวัน
นับเป็นหุ้นที่มีความเสี่ยงสูง

     ดังนั้น ในการลงทุนในหุ้นประเภทใดก็ตาม ผู้ลงทุนจึงควรทำการเปรียบเทียบโดยประเมินผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับ
จากการลงทุนและความเสี่ยงของหุ้นนั้น ๆ ให้รอบคอบว่าเหมาะสมกับเป้าหมายในการลงทุนหรือความสามารถในการยอมรับ
ความเสี่ยงของตนเอง (investment profile) ก่อนตัดสินใจลงทุน
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

หุ้นคืออะไร?

 หุ้นเป็นหลักทรัพย์ประเภทหนึ่งที่เมื่อเราลงทุนในหุ้นของบริษัทใด เราก็จะมีสถานะเป็น “เจ้าของ”ของบริษัทนั้น ซึ่งมีทั้งโอกาสได้รับกำไรหากกิจการของบริษัทดำเนินไปได้ดี แต่ก็มีโอกาสขาดทุนได้เช่นกันหากการดำเนินกิจการมีปัญหา การเป็นเจ้าของกิจการในตลาดทุนอาจไม่ได้หมายความว่า ผู้ลงทุนต้องไปจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทเอง แต่จะเป็นการเข้าไปร่วมลงทุนในบริษัทผ่านการเป็นผู้ถือหุ้นในกิจการดังกล่าว ซึ่งมีการออกและเสนอขาย “หุ้น” ต่อประชาชนทั่วไป เพื่อนำเงินที่ขายหุ้นได้ไปลงทุนในกิจการของบริษัทรวมทั้งได้นำหุ้นของบริษัทเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ด้วย 

ระดับความเสี่ยงของหุ้น

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

ads

บล๊อกผมจะมีเนื้อหาสาระที่เกี่ยวกับวิธีลงทุน มันนี่ ในแบบของ วันทูมันนี่ ของมนุษย์เงินเดือน ไม่ใช่หารายได้ออนไลน์แบบ หาคนมาต่อ หรือประชุม หลอกมาขายนะครับ ใครอยากเรียนรู้อะไรก็หาอ่านได้ตามสบายนะครับ ไม่มีลิ้งค์อะไรให้สมัครต่อผมหรอกครับ ทุกอย่างที่ผมเขียนไป เป็นวิธีลงทุน และออมเงิน หลายวิธี สำหรับไว้ ออมเงิน สไตร์ วันทูมันนี่ครับ เลือกเรียนรู้กันตามสไตร์คุณเลย